วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

เบื่อตัวเอง

วันนี้เราสุดแสนที่จะเบื่อมากมาย เราต้องคอยFAKE กับเพื่อนๆ อีกแล้วเหรอ ก็เพื่อนเราทุกคนอะ มีความสุขกันมาก แต่ฉันสิ ที่ต้องนั่งอมทุกข์อยู่คนเดียว ถ้าเรามัวแต่มานั่งเศร้าให้เพื่อนๆ เห็นเราในสภาพแบบนี้ เราคิดว่าพวกเขาก็คงไม่มีความสุขกับชีวิต เราเลยต้องทำตัวอย่างนี้ต่อไป แต่เพื่อนรักของเรา เขาคงรู้นะ ว่าเรานะ ไม่สบายใจเรื่องอะไร เราเองก็ไม่อยากบอกให้ใครรู้เรื่อง เพราะว่าเรื่องนี้มันก็ค่อนข้างไร้สาระมาก อยากจะเลิกคิดสักที แต่เราก๊ทำใจที่จะลืมเขาคนนั้นที่เรารักมากไม่ได้ จะต้องทำยังไง เราถึงจะล้างสมองได้สักที ถ้าเราลืมเขาได้ โลกทั้งโลกของเราก็คงจะเป็นสีฟ้าที่สดใสเหมือนเดิม



ไดอารี่ /// ปอปู

วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วันสบายๆ

วันนี้เป็นวันที่แสนจะ สบายๆ ของฉัน เพราะวันนี้มีอะไร ดีดี ดีมากๆ เข้ามาในชีวิต เรียนพิเศษวันนี้รู้เรื่องมากที่สุด แถมเพื่อนๆ ก็ซ้อมเพื่อเบญจม์ ได้ดี ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ชอบใจมากๆ เพื่อนๆๆน่ารักกันก็เป็น แถมวันนี้ไปรอรถ เจอดารา พีเค อ่ะนะ น่ารักมากมาย โห ควงแฟนมาด้วย น่าอิจฉามากมาย จุ๊ๆ กันไว้นะ เดินจับมือกันแบบว่า น้ำตาลเนี่ยนะ เรียกพี่เลยนะ วันนี้สบายๆๆ สุดๆๆ ปูจะบอกเพื่อนๆๆว่า ปูรักเพื่อนๆๆ4/3 มากมายเลยนะ



ไดอารี่ /// ปอปู

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

คนฉลาด กับ คนเก่ง ต่างกันไหน???

คนเก่ง คือ คนที่ศึกษาประสบการณ์ตนเองที่ผ่านมา เช่น การทำการบ้านมันจะไม่ลอกเพื่อนเลย... ทำคนเดียวตลอด มักจะทำถูกเสมอ คนจะยกย่องและนับถือกันหลายคน
คนฉลาด คือ คนที่เรียนรู้จากประสบการณ์คนอื่นที่มีประสบการณ์มาก่อน คนพวกนี้เวลาทำอะไรมักจะไปไวก่อนคนอื่นๆเสมอ สามารถชนะคนเก่งได้อย่างสบายๆ เพราะคนพวกนี้จะรู้ว่าแบบไหนดีหรือไม่ดีและปรับใช้ให้เหมาะสมกับตนเอง

ที่มา///http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1193754

วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วันนี้เป็นอะไร

วันนี้เราเป็นอะไรก็ไม่รู่ว่า ทำไมในบ้างครั้งเราเองก็รู้สึกสับสน วุ่นวาย และที่สำคัญหงุดหงิดมากมาย เราเองอยู่ต่อหน้าคนอื่นๆ เราว่าเราร่าเริงมาก จนบางครั้งเราเองก็ว่าเราFAKE มากเกินไปรึเปล่า เพราะว่าเราเองเราว่าเรากำลังคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้ จนบ้างครั้งเราเองก็ว่าไม่สมควรที่จะคิดเลย เพราะว่าตอนนี้เราเองเราสมควรคิดเรื่องที่มีสาระมากกว่าที่เราคิดเรื่องที่ไร้สาระแบบนี้ เพราะว่าตอนนี้เราเองเราคิดเรื่องที่ไร้สาระมากๆ เราว่าเราต้องเลิกคิดได้สักที เราไม่น่าดถึงมันเลยนะ ตั้งแต่ที่แรกเลย อืม เราเหนื่อยจังเลย วันนี้เล่นพละก็เหนื่อยมาก เหนื่อยจังเลย ไปนอนดีกว่า วันนี้ พอสักที



ไดอารี่ /// ปอปู

วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

มีความสุขจุงเลย

วันนี้ข้าพเจ้ามีความสุขมากมาย จากที่มีความทุกข์เพราะเรื่องไร้สาระมานาน เพราะวันนี้เราก็เริ่มคิดได้ว่า ความจริงแล้ว คนที่อยู่ข้างๆเราตลอดเวลาที่จริงแล้วไม่ใช่ใครเลย แต่เป็นคนที่รักเรามากที่สุด ก็คือพ่อกับแม่เรานั่นเอง ต่อจากนี้ไปเราก็ต้องทำดีต่อท่านมากๆๆ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราก็สร้างปัญหามาให้ท่านโดยตลอด และวันนี้ก็เป็นวันที่เรามีความสุขมากๆๆ เพราะว่าเราไม่ได้คิเรื่องไร้สาระเหล่านั้นแล้ว 5555 มีควาสุขจังเลย



ไดอารี่/// ปอปู

วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

อันตรายในไอศครีม

ไอศกรีม อาหารว่างเย็นๆ ที่เป็นของโปรดของเด็กๆ หรือแม้กระทั่งผู้ใหญ่หลายคน ต่างชื่นชอบในรสชาติของไอศกรีมกันทั้งนั้น แต่หารู้ไม่ว่า สารสังเคราะห์จากสารเคมีบางอย่าง ที่ใช้เป็นสารเติมแต่งรสชาติและแต่งแต้มสีสันในไอศกรีมบางยี่ห้อนั้น ได้นำพาสิ่งที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของผู้บริโภคเสียแล้ว ที่เลวร้ายกว่านั้น ผู้ผลิตไอศกรีมหัวใสบางราย ยังได้นำไขมันที่เหลือจากโรงฆ่าสัตว์มาใช้เป็นส่วนผสมในไอศกรีม ซึ่งไขมันจากสัตว์นั้นมีจำนวนของไขมันอิ่มตัวที่สูง เป็นไขมันชั้นเลวที่หากบริโภคไปมากๆ จะก่อให้เกิดโรคอ้วนและไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้ สำหรับสารสังเคราะห์จากสารเคมีที่เป็นอันตราย และได้มีการนำมาผสมในไอศกรีมนั้น มีดังต่อไปนี้ 1. ไดอิธิลกลูคอล( Diethyl Glucol) สารเคมีราคาถูกที่ใช้ในการตีไขมันให้กระจายแทนการใช้ไข่ สารชนิดนี้เป็นสารกันเยือกแข็งที่ใช้กันน้ำแข็งไม่ให้ละลายเร็ว และใช้ในน้ำยากัดสีด้วย 2. อัลดีไฮด์ – ซี71(Aldehyde-C71) เป็นสารที่ใช้ในการสร้างกลิ่นที่ไม่ค่อยมีในประเทศไทย เช่น เชอร์รี่ และเพื่อให้ไอศกรีมเป็นของเหลวติดไฟง่าย และยังนำไปใช้ทำสีอะนิลีน จำพวกพลาสติกและยาง 3. ไปเปอร์โอรัล( Piperoral) ใช้แทนกลิ่นวานิลลา เป็นสารเคมีเดียวกับที่ใช้ผสมในยาฆ่าเหาและหมัด 4. อิธิลอะซีเตท (Ethyl acetate) ใช้สร้างกลิ่นรสสับปะรด อีกทั้งยังใช้เป็นตัวทำความสะอาดหนังและผ้าทอ กลิ่นของสารเคมีตัวนี้ก่อให้เกิดโรคปอดเรื้อรัง ตับ และหัวใจที่ผิดปกติ 5. บิวธีรัลดีไฮด์(Butyraldehyde) ใช้สร้างกลิ่นรสเมล็ดในผลไม้เปลือกแข็งเช่น ถั่วต่างๆ สารนี้เป็นสารที่ใช้เป็นสารประกอบสำคัญในกาวยาง 6. แอนนิล อะซีเตท(Anyle acetate) สารนี้จะให้กลิ่นกล้วยหอม และเป็นสารที่ใช้ทำลายล้างไขมัน 7. เบนซิล อะซีเตท(Benzyle acetate) เป็นสารที่ใช้สร้างกลิ่นและรสสตรอเบอร์รี่เป็นสารละลายไนเตรท ทำให้เกิดความอยากอาหาร สารเคมีที่กล่าวมาทั้งหมด เช่น สารกันเยือกแข็ง ตัวทำละลายน้ำมัน น้ำยาลอกสี ยาฆ่าเหาและฆ่าหมัด นั้น ไม่ใช่ว่าในไอศกรีมทุกยี่ห้อจะมีสารเหล่านี้ทั้งหมด บางยี่ห้ออาจจะผสมสารตัวนี้หรือตัวอื่น นอกจากสารที่กล่าวมาข้างต้น ยังมีการใช้สารให้ความหวาน คือ แซคคารินหรือน้ำตาลเทียม เติมเพื่อให้มีสีและกลิ่นที่หอมหวาน ซึ่งสารแซคคารินนั้นได้มีการพิสูจน์แล้วว่า มีส่วนสนับสนุนทำให้เกิดมะเร็งได้เช่นกัน ไอศกรีมนั้นเป็นอาหารขยะชนิดหนึ่งที่สามารถก่อให้เกิดอันตรายพอสมควร ทั้งนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของผู้ผลิตบางราย และความพอดีในการบริโภคของตัวผู้บริโภคเอง ที่ต้องดูแลเรื่องการบริโภค ให้ได้ส่วนที่พอดีกับความต้องการของร่างกายอาหารขยะ!! ก็คือขยะที่ร่างกายเราไม่จำเป็นต้องกิน ก็สามารถอยู่ได้ไม่ใช่หรือ??


ที่มา///http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1190415

วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

กฏหมายแปลกๆ

ห้ามเด็กปากเหม็นไปโรงเรียน!! (อเมริกา : เวสเวอจิเนีย) อันนี้เนื่องมากจากว่าที่รัฐนี้จะเก็บเกี่ยวหัวหอมชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า wild o­nion เป็นหัวหอมที่มีรสอร่อยมาก แต่เหม็นมาก... ก็คือถ้าเด็กกินหัวหอมนี่เข้าไปแล้วปากเหม็นจะเป็นการรบกวนชาวบ้าน เลยต้องมีกฎหมายของรัฐข้อนี้ขึ้นมา...
ประชาชนถูกแบ่งออกเป็น 51 ระดับ (เกาหลีเหนือ) ระดับหนึ่งจะเป็นระดับที่สูงที่สุด คนที่จะอยู่ในระดับสูงๆได้อย่างน้อยก็ต้องเป็นลูกหลานชาวเกาหลีเหนือแท้ๆตั้งแต่ก่อน แบ่งประเทศ คนเกาหลีเหนือไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกโรงเรียน เลือกอาชีพหรือเลือกอะไรเอง ต้องไปให้เจ้าหน้าที่รัฐจัดการให้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะแบ่งจากระดับที่ว่านี้ ไม่ว่าจะหัวดี เก่งเลิศยังไง ถ้าระดับต่ำก็เป็นได้แค่แรงงานระดับล่าง...
ห้ามเรอในโบสถ์ (อเมริกา : เนวาด้า) ไม่ใช่เพียงแค่การเรอเท่านั้น แต่การตดหรือทำอะไรเสียมารยาทในโบสถ์ด้วยความตั้งใจนั้นถือเป็นการผิดกฎหมายของรัฐ แน่นอนว่าถ้าไม่ตั้งใจก็ไม่เป็นไร.. แต่เค้าจะเอาอะไรมาแบ่งระหว่างความตั้งใจและไม่ตั้งใจ? ที่สำคัญคือถ้าเด็กเรอออกมา พ่อแม่ก็จะโดนจับปรับแทน... อย่างนั้นไม่ต้องเอามันไปโบสถ์ ให้มันเล่นเกมอยู่กับบ้านเป็นดีที่สุด ห้ามสอนเต้นในที่ที่ไม่ใช่ที่สาธารณะ (เกาหลีใต้) ห้ามแอบสอนเต้นกัน... ไม่ใช่อย่างนั้น.. ที่ว่าไม่เป็นการสาธารณะที่รวมถึงการเปิดโรงเรียนสอนเต้นเป็นการส่วนตัวด้วย เนื่องจากประเทศเกาหลีใต้ตอนนี้ ได้ข่าวแข่งขันเรื่องการศึกษาสูงมากๆ มากกว่าประเทศญี่ปุ่นอีก แน่นอนว่าพ่อแม่ที่ต้องการส่งลูกเข้าเรียนมหาวิทยาลัยศิลป์เกี่ยวกับการแสดง นอกจากจะต้องทำศัลยกรรมแปลงโฉมลูกให้ดูดีแล้ว ยังต้องให้เรียนเต้นได้หลายๆแบบตั้งแต่คลาสสิคบัลเล่ต์ไปจนถึงแนวโมเดิร์น รัฐบาลจึงออกกฎหมายนี้ขึ้นเพื่อระงับยับยั้งโรงเรียนสอยพิเศษเอกชนก็เก็บเงินขูดรีดม หาโหด.. แต่ก็เกิดการประท้วงขึ้นจนในที่สุดต้องยกเลิก... พูดง่ายๆก็คือ ยังไงพ่อแม่เค้าก็ยอมจ่าย เพื่อให้ลูกเค้าได้เรียนที่ดีๆ... วันสุริยุปราคาเป็นวันหยุด (ซีเรีย) ไม่ได้เพราะกลัวเป็นอัปมงคลแก่วงศ์ตระกูลอะไร.. แต่เค้าเชื่อกันว่าแสงที่มันลอดออกมาตอนเกิดเนี่ย มันจ้า จะเป็นอันตรายแก่เด็กๆที่ชอบไปยืนมอง เลยให้ปิดประตูปิดม่าน ปิดทุกอย่างเก็บตัวอยู่กับบ้านซะ.. ส่วนคนญี่ปุ่นก็หอบลูกหอบหลานขึ้นเครื่องบินไปยืนดูถึงต่างประเทศ... เกมคอมพิวเตอร์เป็นเกมผิดกฎหมาย (กรีก) รัฐบาลกรีกต้องการแก้ปัญหาเรื่องการพนันในเกมคอมพิวเตอร์ เลยออกกฎหมายห้ามเกมคอมพิวเตอร์ซะเลยเมื่อปี 2002 แน่นอนว่ารวมถึงเกมทุกชนิดในคอมพิวเตอร์หรือแม้แต่ในมือถือด้วย ในความเป็นจริงก็มีชาวต่างชาติโดนจับแล้วหลายรายเพราะถูกค้นพบว่ามีเกมอินสตอลไว้ในม ือถือหรือโน๊ตบุ๊คของตัวเองเท่านั้น... โปเกมอนถูกห้ามในซาอุดิอาระเบีย (ซาอุดิอาระเบีย) เนื่องจากศาสนาอิสลามไม่ให้สักการะรูปลักษณ์ที่เป็นรูปธรรม.. ทั้งนี้ก็รวมไปถึงอิมเมจ คาแรคเตอร์ต่างๆก็ถือว่าไม่เหมาะสมด้วย นอกจากนี้โปเกมอนยังมีการจำหน่ายการ์ดเกมที่ถือว่ามีลักษณะเป็นเหมือนการพนัน... เลยโดนห้ามไปเลย (ยูกิโอะ คิตตี้อะไรก็คงโดนหมด) ความเร็วสูงสุดในการขี่จักรยานคือ 110 กม.!! (อเมริกา : รัฐ Connecticut) อันนี้ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษ -_-; ขนาดรถยนต์ธรรมดาที่ญี่ปุ่นยังกำหนดไว้แค่ที่ 100 กม.ต่อชั่วโมง ว่าแต่.. ใครวะมันจะขี้จักรยานด้วยสปีด 110 กม. ได้... ฆ่าคน 62 คน แต่โดนโทษจำคุกแค่ 22 ปี (นอร์เวย์) หมอชื่ออานฟิน เนเซ็ท ได้ฆาตกรรมคนชรา 62 คนโดยการฉีดยาพิษเข้าที่ผิวหนังด้วยเหตุผลที่ว่า “สนุก” “ต้องการให้ได้ตายสบายๆ” “เพื่อสนองความต้องการของตัวเอง” “เพราะเป็นโรคทางจิต” เนื่องจากประเทศนอร์เวย์ไม่มีโทษประหารหรือจำคุกตลอดชีวิต จำคุก 22 ปีก็เป็นโทษสูงสุดที่ให้ได้ในตอนนั้น.. เมื่อปี 2004 อีตานี่ก็พ้นโทษ.. และตอนนี้ก็ออกมาใช้ชีวิตข้างนอกอย่างมีความสุขแล้ว @_@; ( นอกจากนอร์เวย์แล้วประเทศที่ไม่มีโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิตก็ได้แก่ เอกวาดอร์ เม็กซิโก ติมอร์ตะวันออก เป็นต้น) แค่ขโมยแตงโมลูกเดียวโดนโทษจำคุกตลอดชีวิต?? (จีน) ในขณะที่ฆ่าคน 62 คนจำคุกแค่ 22 ปี.. หมอนี่ขโมยแตงโมลูกเดียวจำคุกตลอดชีวิต -_-; เนื่องจากอีตานี่ไม่มีไรกิน ก็ขโมยแตงโมในตลาดไปลูกนึง ปรากฎว่าคนอื่นเห็นก็พากันเอาอย่างไปหยิบมาบ้าง ปรากฎว่าแตงโมหายไป 25 ตัน ทางการให้เป็นความผิดนี่หมดเพราะถือว่าเป็นเพราะเริ่มขโมยคนแรก (ซวย...) เลยโดนจำคุกตลอดชีวิต ป่านนี้ไม่รู้เป็นไงบ้าง... -_-; ท่องจำคัมภีร์อัลกุรอานได้โทษจะลดน้อยลงครึ่งนึง (ซาดุดิอาระเบีย) สำหรับศาสนาอิสลามแล้วคัมภีร์อัลกุรอานเป็นคำสอนที่มีความสำคัญ ถึงจะเคยทำความผิดมาและได้รับโทษแต่ถ้าสามารถเล่าเรียนถึงขนาดท่องจำคำสอนในคัมภีร์ไ ด้หมดก็คงได้รับการเรียนรู้ในการเป็นคนดีมากขึ้นไม่มากก็น้อย ภายในสถานจองจำของซาอุดิอาระเบียจึงมีการตั้งสถานที่เรียนคำสอนสำหรับนักโทษขึ้น.. แต่ได้ข่าวว่าเนื้อหาในคัมภีร์มีเยอะมาก กว่าจะจำได้หมดก็คงพ้นโทษพอดี... ใครทำระเบิดนิวเคลียร์ระเบิดจะโดนปรับ 500 ดอล (อเมริกา : รัฐแคลิฟอร์เนีย) ห้ามแต่งแฟนซีเป็นแม่ชี (อเมริกา: รัฐอลาบามา) เค้าก็ไม่แปลกหรอกเพราะแม่ชีเป็นตัวแทนศาสนาที่ควรให้ความเคารพ ไม่ใช่เอาชุดมาแต่งแฟนซีซี้ซัวะ.. แต่คนประเทศนี้นี่สิ... พวกชอบคอสเพลย์แม่ชีตายแน่.. โทษคือโดนปรับไม่เกิน 500 ดอล (เท่ากับทำนิวเคลียร์ระเบิด?) หรือถูกจำกัดสถานที่ 1 ปี ใครไม่รับใบเสร็จโดนปรับสูงสุด 15,000 ยูโร (อิตาลี) สำหรับประเทศอิตาลีแล้วจะมีภาษีตัวนึงที่คล้ายๆภาษีผู้บริโภค (IVA) ที่เก็บสูงถึง 20% ทำให้คนทำธุรกิจหลายรายหลีกเลี่ยงโดยการไม่ออกใบเสร็จให้.. เลยมีกฎหมายตัวนี้ขึ้นมา... ใครไปอิตาลีก็อย่าลืมรับใบเสร็จเค้าด้วยล่ะ
มันยังมีอีกเยอะ

ที่มา////http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1189246

วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ชีวิตที่น่าเบื่อ

วันนี้เป็นวันที่น่าเบื่อสุดๆ เราเองก็ทำดีที่สุดแล้ว ตั้งใจเรียนสารพัด แต่ทำไมเราถึงไม่เข้าใจเหมือนกับเพื่อนๆ
น่าเบื่อนะ ชีวิตแบบนี้ แถมยังโดนอาจารย์ที่ปรึกษาเพ่งเลงอีก น่าเบื่ออีกตามเคย ทั้งๆที่เราเองก็ไม่เคยทำอะไรให้เขาต้องเกียจเลยสักนิด แล้วแถมยังต้องเกือบโดนบังคับให้ไปตากแดดอีก โห ชีวิต แต่ไม่เป็นไรหรอกทำเพื่อสถาบันบ้างก็ดรเหมือนกันละ วันนี้คงเป็นอีกวันที่เราต้องทำตัวไร้ค่าอีกตามเคย





ไดอารี่..........ปอปู!!!!!!!!!!!!

วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

แม่ต้อยไม่ได้มีแต่ในโฆษณา

ภาพยนตร์โฆษณาไทยประกันชีวิต เสนอชีวิตหญิงสู้โรคมะเร็งอยู่ได้ 2 ปี อุทิศชีวิตช่วยเด็ก ถ่ายทอดความสุขในการเล่นกีตาร์ ดูไม่ทุกข์ร้อนกับโรคร้าย เปรียบเหมือน ครูติ๋ว แห่งบ้านโฮมฮักโดย Forward mail.เชื่อว่าหลายคนคงได้ยิ้มทั้งน้ำตาไปพร้อมๆ กับความซาบซึ้งกินใจ หลังจากได้ชมโฆษณาประกันชีวิตของบริษัทแห่งหนึ่งที่เสนอเรื่องราวชีวิตของแม่ต้อย ผู้ให้เส้นทางชีวิตใหม่แก่เด็ก 3 คน ที่หลงเดินทางผิดและกำลังจะกลายเป็นปัญหาสังคม แต่ แม่ต้อย กลับพาเด็กๆ เหล่านั้นมาอุปการะเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ราวกับเป็นลูกของเธอเอง แม้เธอจะป่วยเป็นมะเร็ง และมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงแค่ 2 ปี แต่เธอก็ยังสามารถเล่นกีตาร์ร้องเพลงสนุกไปกับรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเด็กๆ ภาพชีวิตของบุคคลหนึ่งที่อุทิศตัวเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายให้กับเด็กๆ แม้ตัวเองจะป่วยเป็นมะเร็งก็ไม่ หวาดหวั่นดังเช่นในโฆษณา ละม้ายคล้ายคลึงกับชีวิตของ "ครูติ๋ว สุธาสินี น้อยอินทร์"แห่งบ้านโฮมฮัก บ้านที่เปรียบเสมือนออกซิเจน ที่ช่วยต่อลมหายใจให้กับเด็กไร้ โอกาสหลายๆ คนในสังคม
"ครูติ๋ว" หรือ "แม่ติ๋ว" ของเด็กๆ เคยเป็นอาสาสมัครตามมูลนิธิต่างๆ ก่อนจะมาก่อตั้ง "มูลนิธิ สุธาสินี น้อยอินทร์ เพื่อเด็กและเยาวชน" ขึ้น และสร้างบ้านโฮมฮักขึ้นที่จังหวัดยโสธร ตลอดเวลา 20 ปีของบ้านโฮมฮัก ครูติ๋วได้ทุ่มเทความรักให้กับเด็กๆ ด้อยโอกาสและเด็กที่ประสบปัญหาวิกฤติต่างๆ ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเด็กติดเชื้อเอดส์ เด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศ หรือเด็กถูกทำร้ายทุบตี รวมๆ กว่า 100 ชีวิต แม้ตัวครูติ๋วเองจะมีฐานะไม่สู้ ดีนัก ซ้ำยังทรมานจากอาการป่วยเป็ นมะเร็งลำไส้ใหญ่มานานหลายปี ซึ่งอาการก็ทรงๆ ทรุดๆ และกำเริบขึ้นมาวันใดก็ได้ แต่ครูติ๋วก็ไม่ได้ทุ่ มเทแรงกายแรงใจไปกับการรักษาตัวเองเสียทั้งหมด เวลาส่วนใหญ่ของเธออยู่ที่ การได้ดูแลเด็กๆ ในบ้านโฮมฮัก นั่นเพราะครูติ๋วมีหลั กในการดำรงชีวิตว่า "ชีวิตที่มีค่า คือการทำให้ชีวิตผู้อื่นมีค่า" ดังนั้นครูติ๋วจึงสุขใจที่จะได้ มอบชีวิตใหม่ให้กับเด็กๆ ผู้เปรียบเสมือนต้นกล้าเล็กๆ ที่กำลังรอการรดน้ำพรวนดิ นและใส่ปุ๋ยที่ดีก่อนจะเติ บโตเป็นต้นไม้ที่สวยงามต่อไป สมกับชื่อบ้าน "โฮมฮัก"ที่เป็นภาษาอีสานหมายถึง "ศูนย์รวมแห่งความรักนั่นเอง"
นับวันที่บ้านโฮมฮักจะมีเด็กๆ เข้ามารับไออุ่นจากบ้านมากขึ้น นั่นสะท้อนให้เห็นว่าสังคมเรายิ่งเลวร้ายลงเพียงใด บ้านโฮมฮักที่กลายเป็นจุดพักพิงของเด็กๆ ด้อยโอกาส จึงกำลังประสบปัญหาอย่างหนักเรื่องเงินทุนที่ต้องใช้กว่าเดื อนละเจ็ดแสนบาท ทั้งค่าอาหาร ค่ายา และอุปกรณ์ต่างๆ จนครูติ๋วก็ไม่รู้ว่าชะตากรรมของเด็กๆ จะดำเนินต่อไปได้อย่างไร หากขาดเงินทุนมาหล่อเลี้ยงชีวิต แต่หลังจากครูติ๋วได้ ออกรายการโทรทัศน์หลายๆ รายการ นั่นก็ทำให้เกิดธารน้ำใจจากกลุ่ มต่างๆ หลั่งไหลเข้ามาช่วยเหลือจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อมอบเงินทุนให้กับบ้านโฮมฮัก เป็นการตอบแทนน้ำใจของครูติ๋วที ่ได้แบ่งปันและให้สิ่งดีๆ กับสังคม และนี่คือชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ งที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านภาพยนตร์โฆษณา เป็นการกระตุ้นให้คนตระหนักถึงสังคมมากขึ้น เฉกเช่นเดียวกับความคิดของ "ครูติ๋ว" ที่แม้ร่างกายของเธอจะอ่อนแอจากโรคร้ายที่รุมเร้า แต่หัวใจของเธอยังคงเข้มแข็งเต็มเปี่ยมพร้อมที่จะ "ให้" และเติมเต็มในสิ่งที่ขาด ในทุกๆ โอกาสที่เธอจะทำได้
ใครอยากร่วมให้กำลังและแบ่งปั นสามารถส่งผ่านทางที่อยู่ มูลนิธิสุธาสินี น้อยอินทร์ เพื่อเด็กและ เยาวชน เลขที่ 3 หมู่ 12 บ้านประชาสรรค์ ต.ตาดทอง อ.เมือง ยโสธร 35000 หรือทางบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา ยโสธร ชื่อบัญชี มูลนิธิสุธาสินี น้อยอินทร์ เพื่อเด็กและเยาวชน เลขที่บัญชี 561-2-21187-7 หรือบัญชีธนาคารทหารไทย สาขา ยโสธร ชื่อบัญชี มูลนิธิสุธาสินี น้อยอินทร์ เพื่อเด็กและเยาวชน


ที่มา///http://news.sanook.com/scoop/scoop_319020.php