วันอังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ทั่วโลกหนาวรุนแรง


ทั่วโลกหนาวรุนแรง พบเจอปรากฏการณ์แปลกฤดูหนาวนี้หลายประเทศพบกับอากาศหนาวจัดอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน พร้อมกับเกิดเหตุการณ์แปลกๆ ที่มากับความหนาว เช่น แสงประหลาด พื้นน้ำแข็งรูปวงกลม และนกนางแอ่นที่สู้กับความหนาวอย่างทรหด จนได้รับการขนานนามว่า "แรมโบ้"ที่เมืองซีกัลดา ประเทศลัตเวีย นายอัลการ์ ทรูฮินส์ ถ่ายรูปลำแสงที่พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยกล้องดิจิตัล จนกลายเป็นภาพที่สร้างกระแสวิจารณ์ในอินเตอร์เน็ตให้กับเหล่านักดูดาวมือสมัครเล่นแต่ผู้วชาญด้านดาราศาสตร์ เห็นว่า ลำแสงนี้อาจเกิดจากผลึกน้ำแข็งหรือไอซ์คริสตัลในอากาศ โดยแสงไฟบนถนนสะท้อนขึ้นไปบนท้องฟ้า และผลึกน้ำแข็งบนฟ้าสะท้อนแสงให้กลับลงมา อย่างไรก็ตาม ผู้วชาญยอมรับว่า ลำแสงที่ทรูฮินส์ถ่ายมาได้ มีความแตกต่างไปจากลำแสงที่เกิดโดยผลึกน้ำแข็งอื่นๆ และต้องถ่ายรูปมาเพิ่มเติมเพื่อทำการวิเคราะห์ต่อไป
1. น้ำแข็งวงกลมที่รัสเซีย2.ที่รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา 3.น้ำแข็งวงกลมบนแม่น้ำออตเตอร์ที่อังกฤษ เส้นผ่าศูนย์กลาง 10 ฟุต และจะหมุนเป็นวงกลมครบ 360 องศา ทุกๆ 4 นาทีกับ 10 วินาที4 ที่ออนตาริโอ ประเทศแคนาดาในหลายประเทศ มีผู้พบเห็นน้ำแข็งวงกลม หรือ "ไอซ์เซอร์เคิล" ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว จะพบในอาร์กติก ประเทศสแกนดิเนเวียและแคนาดานักวิทยาศาสตร์อธิบายว่า การที่น้ำแข็งบนแม่น้ำสร้างรูปเป็นวงกลมได้ เพราะแรงที่เรียกว่า "Rotational shear" หรือ "แรงตัดหมุน" ซึ่งกระเทาะแผ่นน้ำแข็งออกและหมุนเป็นวงกลมปิดท้ายด้วยชีวิตของนกนางแอ่น ที่นักดูนกชาวอังกฤษต่างให้ความสนใจ เพราะมันเป็นนกนางแอ่นตัวเดียวในประเทศ ที่ยังอยู่รอดในฤดูหนาวที่อากาศหนาวเย็นมากที่สุดในรอบ 30 กว่าปี จนมีผู้ตั้งชื่อว่า "แรมโบ้"ตามปกติแล้วเดือนกันยายน นกนางแอ่นอังกฤษจะเริ่มอพยพไปอยู่ที่ทางตอนใต้ของแอฟริกา และจะหายไปเกือบทั้งหมดก่อนคริสต์มาส แต่ยังมีนกนางแอ่นบางตัวที่ไม่ยอมบินไป โดยเมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา นักดูนกพบนกนางแอ่นที่สู้กับอุณหภูมิ -12 องศาเซลเซียส อยู่ 7 ตัว แต่ไม่นานมานี้ 6 ตัวได้ตายไป เหลือรอดอยู่ก็แค่ "แรมโบ้" ตัวเดียวจากการสังเกตพบว่า น้ำหนัก "แรมโบ้" ลดลงกว่าครึ่ง เพราะอากาศหนาวจัดทำให้แมลงอาหารของนกหายหน้าหายตาไป มันจึงไม่มีอาหารกิน นักดูนกจึงพากันไปพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติมาเรเซียน ในคอร์นวอลล์ เพื่อให้กำลังใจ "แรมโบ้" กันอย่างเนืองแน่นที่มา



หนังสือพิมพ์ข่าวสด



ที่มา///http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1224336

ไม่มีความคิดเห็น: